Question 1

ทำไมต้องเลือก Fast Buds?

Accepted Answer

คุณสามารถปลูกได้มากขึ้น ในเวลาที่เร็วขึ้น สายพันธุ์ Fast Buds ได้รับการพัฒนามาหลายปีแล้ว เราได้ทุ่มเทเวลาอย่างมากให้กับพันธุกรรมของเรา โดยมองหาลักษณะที่ต้องการมากที่สุด และด้วยการวิจัยและการผสมพันธุ์อย่างเข้มข้น เราจึงสามารถเลือกและปรับปรุงสิ่งที่ดีที่สุดได้ คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์หลายปีด้วยรสชาติ กลิ่น และผลกระทบของพืชของเรา
เรามีสายพันธุ์มากมายพร้อมจำหน่ายในสหราชอาณาจักร โดยมีลักษณะและคุณลักษณะที่หลากหลายซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคทุกประเภทพึงพอใจและเหมาะสำหรับผู้ปลูกทุกคนตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงมือโปร
เลือกสายพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบของคุณทางออนไลน์และรับแพ็คเกจที่สุขุมอย่างสมบูรณ์ผ่านบริการด่วนโดยไร้กังวล

Question 2

วิธีการซื้อเมล็ดพันธุ์กัญชาออกดอกอัตโนมัติออนไลน์?

Accepted Answer

การซื้อเมล็ดกัญชาที่ออกดอกอัตโนมัตินั้นง่ายมาก ขั้นตอนแรก เข้าถึง 2fast4buds.com และดูแคตตาล็อกของเรา เมื่อคุณได้ทำการเลือกสายพันธุ์ที่ต้องการซื้อแล้ว ให้เลือกขนาดแพ็คที่มีตั้งแต่ 1 ถึง 1,000 เมล็ด จากนั้นเลือกวิธีการชำระเงิน เรารองรับ bitcoin, Visa/ Mastercard , การโอนเงินผ่านธนาคาร และเก็บเงินปลายบทาง หลังจากเลือกวิธีการชำระเงินที่คุณต้องการแล้ว ก็แค่รอสองสามวันสำหรับการสั่งซื้อของคุณ!

Question 3

ฉันสามารถซื้อเมล็ดพันธุ์ออกดอกอัตโนมัติได้กี่เมล็ดในแต่ละครั้ง?

Accepted Answer

หากคุณเป็นนักปลูกที่ปลูกโดยทั่วไปแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องมีเมล็ดพันธุ์ตัวเมียจำนวนมาก นี่คือเหตุผลที่เราเสนอในการซื้อเมล็ดกัญชาในชุดที่บรรจุเมล็ดกัญชา 1, 2, 3, 5, 10 เมล็ด แต่สำหรับผู้ที่ปลูกกลางแจ้งหรือ มีพื้นที่ปลูกในร่มขนาดใหญ่ อาจเป็นประโยชน์มากกว่าที่จะซื้อเมล็ดกัญชาในปริมาณมาก ด้วยเหตุนี้ เราจึงเสนอการซื้อเมล็ดกัญชาในแพ็คที่ใหญ่ขึ้นด้วยเมล็ดกัญชา 25, 50, 100, 150 และ 1,000 เมล็ด ซึ่งสามารถจัดส่งได้ใน หนึ่งแพ็ครวม วิธีนี้ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องทำการสั่งซื้อหลายรายการ และทุกอย่างก็มาถึงอย่างปลอดภัย

Question 4

วิธีการเลือกเมล็ดพันธุ์ตัวเมียที่ดีที่สุด?

Accepted Answer

คุณสามารถหาพันธุศาสตร์การออกดอกอัตโนมัติในตลาดได้หลายพันชนิด และแต่ละชนิดก็มีลักษณะที่จะตอบสนองผู้บริโภคไม่ตรงกัน นี่คือเหตุผลที่เราได้เพิ่มตัวกรองเพื่อให้คุณเลือกเมล็ดกัญชาสำหรับรอบการเติบโตต่อไปได้ง่ายขึ้น
ในแค็ตตาล็อกของเรา คุณจะพบกับพันธุกรรมหลายอย่างที่คุณสามารถกรองได้ เช่น “สภาพอากาศ” “ขนาด” และ “ความแข็งแกร่ง” ผลลัพธ์ยังสามารถจัดเรียงตาม "ราคาสูง" "ราคาถูก" และ "สินค้าขายดี" ซึ่งช่วยให้คุณสามารถค้นหาสิ่งที่คุณต้องการได้อย่างแม่นยำ วิธีนี้คุณจะซื้อเมล็ดกัญชาที่ตอบสนองคุณที่สุด

Question 5

เมล็ดที่ออกดอกอัตโนมัติเป็นตัวเมียหรือไม่?

Accepted Answer

ถูกต้อง พันธุศาสตร์การออกดอกอัตโนมัติทั้งหมดที่ เรานำเสนอในแค็ตตาล็อกของเราเป็นแบบตัวเมีย ซึ่งหมายความว่า เมล็ดกัญชาที่ ออกดอกอัตโนมัติของคุณ จะส่งผลให้เมล็ดที่เป็นตัวเมีย 100% ดังนั้นทั้งหมดนี้จะผลิตดอกที่ไม่มีเมล็ดแทนถุงละอองเรณู อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้คุณจัดเตรียมพื้นที่ที่จะปลูกไห้ดีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด เนื่องจากสภาพการปลูกอาจส่งผลต่อคุณภาพและปริมาณการเก็บเกี่ยวของคุณ ดังนั้นหากคุณต้องการที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราขอแนะนำให้คำนึงถึงปัจจัยต่อไปนี้:
- ระดับ NPK ปริมาณไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมในปริมาณที่เหมาะสมในระยะที่เหมาะสมจะทำให้การเก็บเกี่ยวของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นอย่าลืมว่า กัญชาที่ออกดอกอัตโนมัติชอบไนโตรเจนในระดับที่สูงกว่าในช่วงการเจริญเติบโต และระดับฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมที่เพิ่มขึ้นในช่วงระยะออกดอก
- ระดับความชื้นและความชื้น ขอแนะนำให้ใช้ระดับความชื้นประมาณ 70% เพื่อให้ต้นกล้าเติบโตโดยไม่มีปัญหาใดๆ นอกจากนี้ พื้นผิวควรชื้นเสมอแต่ไม่เปียกจนหมด
- อุณหภูมิ ควรปรับอุณหภูมิสำหรับแต่ละระยะของการเจริญเติบโตของพืช โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 20-25°C สำหรับต้นกล้า 22-28°C ในระยะพืช และ 18-24°C ระหว่างระยะออกดอก

Question 6

ทำไมต้องเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์กัญชาที่ออกดอกอัตโนมัติ ?

Accepted Answer

การออกดอกอัตโนมัติ มีประโยชน์มากมายที่ทำให้โดดเด่นจากพันธุกรรมทั่วไป ด้วยประโยชน์เหล่านี้ที่คุณควรเน้นย้ำถึงสิ่งต่อไปนี้:
- การบำรุงรักษาต่ำ: พืชชนิดนี้ เติบโต อย่างรวดเร็วและแข็งแรง จึงไม่จำเป็นต้องดูแลเป็นพิเศษเว้นแต่จำเป็นจริงๆ
- ต้องการสารอาหารน้อยลง: เนื่องจากการเติบโตที่สั้นลงและใช้เวลาน้อยลง การออกดอกอัตโนมัติจึงต้องการสารอาหารน้อยลงซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและเงินของคุณ
- ลอบเร้น: เนื่องจากการปลูกในด้านที่สั้นกว่า การออกดอกแบบอัตโนมัติจึงสามารถปลูกในเต๊นท์ขนาดเล็กหรือพื้นที่จำกัด เช่น ระเบียงหรือดาดฟ้า
การปลูกกัญชาของคุณเองเพื่อการใช้งานส่วนตัวเป็นกิจกรรมที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับผู้ใช้สันทนาการและผู้ที่ชื่นชอบกัญชา สายพันธุ์ที่ไม่ใช่อัตโนมัติแบบดั้งเดิมอาจเป็นเรื่องยากที่จะปลูกสำหรับแม้กระทั่งผู้ปลูกกัญชาที่มีประสบการณ์
ข้อดีของการเลือกซื้อ เมล็ดพันธุ์กัญชา ออกดอกอัตโนมัติ จาก Fast Buds คือสายพันธุ์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงสายดั้งเดิมของเรา:
Amnesia Haze AutoNorthern Lights AutoOG Kush AutoAK AutoCheese AutoJack Herer AutoWhite Widow AutoSour Diesel AutoChemdawg Auto
นอกจากนี้เรายังภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำในเมล็ดพันธุ์กัญชา อัตโนมัติ นั่นเป็นเหตุผลที่เมื่อเร็วๆ นี้เราได้เพิ่มสายพันธุ์ต่อไปนี้:
Gorilla Cookies AutoLemon Pie AutoStrawberry Pie AutoWedding Cheesecake AutoOrange Sherbert Auto
ด้วยการปรับปรุงพันธุกรรมของเรา เมล็ดพันธุ์อัตโนมัติ Fast Buds ของคุณจะไม่ไช่แค่พร้อมเก็บเกี่ยวในเวลาเพียง 9 สัปดาห์เท่านั้น แต่ยังมีความแข็งแกร่งพอที่จะเติบโตได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ลูกค้าของเราทั่วโลกและไม่ว่าสภาพอากาศของพวกเขาจะพบว่า เมล็ดพันธุ์ที่ ออกดอกอัตโนมัติ เป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับการปลูกกัญชาของตนเอง
เมล็ดออกดอกอัตโนมัติ ที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตสายพันธุ์ที่สวยงาม ทีมงานที่มีทักษะของเราได้ทำงานเพื่อรวมสิ่งเหล่านี้เข้ากับสายพันธุ์ที่โดดเด่นที่สุด เมื่อเวลาผ่านไป เราได้ปรับให้เหมาะสม สำหรับระดับ THC ที่มีศักยภาพ ดังนั้นผู้ที่ซื้อ เมล็ดกัญชาออกดอกอัตโนมัติจากเราจึงได้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพซึ่งให้ผลลัพธ์ที่โดดเด่นเมื่อสูบเข้าไป

Question 7

วิธีการสร้างเมล็ดออกดอกอัตโนมัติ ?

Accepted Answer

ศาสตร์แห่งการสร้าง เมล็ดกัญชาแบบออกดอกอัตโนมัติ เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคนที่ปลูกพืชในอดีต แม้ว่าจะไม่เคยปลูกกัญชาก็ตาม เช่นเดียวกับพืชใดๆ คำว่า 'กัญชา' ที่ครอบคลุมทั้งหมดนั้นครอบคลุมสายพันธุ์ย่อยที่แตกต่างกันมากมาย ทั้งหมดมีลักษณะที่แตกต่างกันไป แต่มีเพียงไม่กี่ลักษณะที่ครอบคลุมทุกสิ่งที่ผู้ชื่นชอบกัญชาสมัยใหม่ต้องการเมื่อปลูกสายพันธุ์ของตนเอง
สองตัวอย่างของสายพันธุ์ย่อยเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีโดยชุมชนกัญชา อินดิก้า และซาติว่า สิ่งเหล่านี้สร้างผลลัพธ์ที่เราทุกคนต้องการเมื่อบริโภคกัญชา เนื่องจากมีลักษณะเฉพาะ อย่างไรก็ตาม สปีชีส์ย่อยเหล่านี้ก็มีข้อเสียเช่นกัน เช่น การพัฒนาตามวัฏจักรแสง ซึ่งทำให้การปลูกในบ้านท้าทายและลำบากมากขึ้น
เมล็ดกัญชาออกดอกอัตโนมัติ ถูกสร้างขึ้นโดยใช้พันธุศาสตร์ คานนาบิส รูเดราลิส ซึ่งมี ลักษณะเฉพาะที่จำเป็น มีถิ่นกำเนิดในสภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีฤดูร้อนที่สั้นกว่า เช่น ยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก ดอกไม้จะแปรผันตามเวลาและอายุ ซึ่งต่างจากระดับแสงแดด
แม้จะเป็นลักษณะของเมล็ดที่ออกดอกอัตโนมัติที่ดี แต่ คานนาบิส รูเดราลิส เป็นพืชขนาดเล็กที่มี THC ต่ำอย่างแท้จริง การผสมข้ามพันธุ์อย่างมีประสิทธิภาพกับ อินดิก้า และ ซาติว่า ผู้เชี่ยวชาญของเราที่ Fast Buds สามารถผลิต เมล็ดกัญชาออกดอกอัตโนมัติ ที่ผลิตดอกตูมที่อุดมไปด้วยเรซินซึ่งมี THC ที่สูงและพร้อมเก็บเกี่ยวในเวลาเพียง 9 สัปดาห์

Question 8

เมล็ดกัญชาแบบออกดอกอัตโนมัติเป็นกระเทยหรือไม่?

Accepted Answer

ไม่ พันธุกรรมทั้งหมดของเราได้รับการคัดเลือกมาเป็นพิเศษเพื่อพัฒนาลักษณะบางอย่าง เช่น การผลิตดอกไม้ กลิ่น ผลกระทบ และโครงสร้าง นอกเหนือจากลักษณะที่กล่าวถึง พันธุกรรมทั้งหมดของเราเป็นตัวเมีย ซึ่งหมายความว่าสายพันธุ์ของเราได้รับการคัดเลือกและผสมพันธุ์เพื่อไม่ให้แสดงลักษณะกระเทย ส่งผลให้พืชเพศเมีย100%
สำหรับผู้ที่ไม่รู้ว่าต้นกระเทยคืออะไร ก็คือพืชเพศผสมนั้นเอง หมายความว่าพืชที่ปลูกมีทั้งอวัยวะเพศชายและหญิง เมื่อถุงละอองเรณูเปิดออก พวกมันจะลงเอยด้วยการผสมเกสรของดอก ซึ่งจะทำไห้ออกดอกที่มีเมล็ดผสมไปด้วย
เนื่องจากธรรมชาติของกัญชา เมล็ดกัญชาสามารถกลายเป็นกระเทยได้หากพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากสภาวะที่ตึงเครียด เช่น ร้อนหรือเย็นจัด แมลงศัตรูพืช เชื้อรา การให้น้ำมากเกินไป และการให้อาหารมากไป จำไว้ว่าสิ่งนี้ไม่เกี่ยวพันกับพันธุกรรมเนื่องจากเป็นวิธีการที่กัญชาต้องขยายพันธุ์ของพวกมันหากพวกเขารู้สึกว่าพวกเขากำลังจะตาย ดังนั้นหากคุณมีปัญหากับต้นกระเทย ให้ตรวจสอบสภาวะการปลูกของคุณ !

Question 9

เมล็ดกัญชาอัตโนมัติของฉันจะงอกหรือไม่?

Accepted Answer

ในฐานะธนาคารเมล็ดพันธุ์กัญชาชั้นนำ ของเมล็ดออกดอกอัตโนมัติ Fast Buds จะทำให้แน่ใจว่าเมล็ดกัญชาทั้งหมดของเราได้รับการทดสอบอย่างละเอียดก่อนเข้าสู่ตลาด นั่นคือเหตุผลที่เรารับประกันอัตราการงอก 98% สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าเมล็ดกัญชาเป็นสิ่งมีชีวิตและความอยู่รอดของเมล็ดอาจได้รับอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมที่เก็บไว้ ในกรณีที่เมล็ดไม่งอก คุณสามารถติดต่อเราโดยกรอกแบบฟอร์มการรับประกันและเรา จะส่งเปลี่ยนให้คุณฟรี!

Question 10

ฉันควรเก็บเมล็ดพืชอย่างไร?

Accepted Answer

หลังจากที่คุณซื้อเมล็ดกัญชา คุณควรเก็บเมล็ดกัญชาอย่างเหมาะสม เมล็ดกัญชาอัตโนมัติของคุณสามารถใช้งานได้นานถึง 10 ปีหากเก็บไว้ในสภาพที่สมบูรณ์ จำไว้ว่าเมล็ดกัญชายังมีชีวิตอยู่ คุณควรเก็บเมล็ดกัญชาไว้ระหว่าง 8-12 ºC (45-55 ºF) หรือ หากคุณไม่สามารถใช้ตู้เย็นได้ ให้เก็บให้ห่างจากแสงและความชื้น และใกล้กับอุณหภูมิเหล่านี้มากที่สุด

Question 11

การออกดอกอัตโนมัติของฉันจะใช้เวลานานแค่ไหน?

Accepted Answer

เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ปกติ ดอกอัตโนมัติจะเติบโตและออกดอกเร็วกว่า ส่งผลให้วงจรการเจริญเติบโตโดยรวมเร็วขึ้น แต่ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมเฉพาะที่คุณกำลังเติบโต สายพันธุ์เด่นของ อินดิก้า มักใช้เวลาน้อยลง เนื่องจากมีขนาดกะทัดรัดและสั้นกว่าในขณะที่สายพันธุ์เด่นของ ซาติว่า จะสูงขึ้นซึ่งจะเพิ่มทุกแห่งตั้งแต่ 1-3 สัปดาห์ไปจนถึงวัฏจักรการเติบโตซึ่งเป็นเรื่องปกติอย่างสมบูรณ์
ซึ่งหมายความว่าขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ การออกดอกอัตโนมัติอาจใช้เวลาเพียง 7 สัปดาห์หรือนานถึง 11 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม แต่โดยทั่วไปแล้ว พันธุกรรมในการ ออกดอกอัตโนมัติ ใช้เวลา 9 สัปดาห์ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนต่อไปนี้:
ต้นกล้าสู่ระยะพืช - วันที่ 1 - 28ระยะก่อนออกดอก - วันที่ 28 - 35ระยะออกดอก - วันที่ 35 - 63
เพียงจำไว้ว่าเวลาเหล่านี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่ใช้เวลา 9 สัปดาห์ตั้งแต่เมล็ดจนถึงการเก็บเกี่ยวในสภาพที่เหมาะสม หากคุณประสบปัญหาใดๆ ที่ทำให้การเจริญเติบโตช้าลง เช่น อุณหภูมิที่เย็นจัด การให้อาหารมากไป หรือข้อบกพร่องใดๆ วัฏจักรการเจริญเติบโตอาจได้รับผลกระทบ และอาจจบลงด้วยการเพิ่มเวลาสองสามสัปดาห์เป็นจำนวนสัปดาห์ทั้งหมด
โปรดจำไว้ว่าสารอาหาร แสง สารตั้งต้น และขนาดกระถางจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช คุณจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงทุกสิ่งและจัดเตรียมสภาวะที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้

Question 12

อะไรคือเคล็ดลับที่สำคัญที่สุดในการปลูก เมล็ดพันธุ์ ออกดอกอัตโนมัติ สำหรับปลูกครั้งแรก?

Accepted Answer

หากคุณกำลังปลูกป็นครั้งแรก จำนวนตัวเลือกสำหรับวงจรการเติบโตของคุณอาจดูล้นหลาม การวางแผนที่ไม่ดีจะนำไปสู่ผลผลิตที่ไม่ดี และที่แย่กว่านั้นจะทำให้พืชไม่เติบโตอย่างเต็มที่
มีอะไรมากมายให้เรียนรู้เรื่องการปลูก เมล็ดพันธุ์ออกดอกอัตโนมัติ เพื่อเริ่มต้น เคล็ดลับยอดนิยมของเราคือ:
- วางแผนให้มากที่สุด - ก่อนที่คุณจะซื้อ คุณควรพิจารณาวงจรการเติบโตทั้งหมดของคุณ คุณจะใช้ดินอะไร? คุณจะปลูกที่ไหน เมล็ดกัญชาที่ ออกดอกอัตโนมัติ จะเติบโตอย่างรวดเร็วเมื่องอก ดังนั้นคุณต้องมีแผนที่สมบูรณ์ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการเติบโต
- อย่าเปลี่ยนที่อยู่ต้นไม้ใหม่ - ในสภาพแวดล้อมที่กำลังเติบโตอื่นๆ เป็นเรื่องปกติที่จะปลูกต้นไม้ในกระถางใหม่ที่ใหญ่กว่าเมื่อถึงขนาดที่กำหนด สำหรับการออกดออัตโนมัติ นี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณอาจเสี่ยงได้ วงจรการเติบโตอย่างรวดเร็วจะให้เวลาเพียงเล็กน้อยในการฟื้นตัว ดังนั้นให้ปลูกเมล็ดกัญชาอัตโนมัติในกระถางที่จะเป็นที่อยู่ของพืชที่โตเต็มที่
- เลือกดินและภาชนะอย่างชาญฉลาด – การออกดอกอัตโนมัติ ชอบดินที่มีอากาศถ่ายเทโดยมีความสมดุลระหว่างอากาศกับน้ำ คุณยังสามารถพิจารณาใช้กระถางผ้าเพื่อให้มีการระบายน้ำสูงสุดและเพื่อให้ดินอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
- เบาๆด้านสารอาหาร - หนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดสำหรับผู้ปลูกใหม่คือการได้ไห้สารอาหารพืชมากเกินไป ในกรณีนี้ ไม่ได้หมายความว่าดีขึ้น และการเริ่มต้นด้วยสารเติมแต่งในปริมาณที่น้อยที่สุดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการเผาผลาญสารอาหาร เริ่มต้นที่ครึ่งหรือหนึ่งในสี่ของปริมาณที่แนะนำและดูว่าพืชของคุณตอบสนองอย่างไร

Question 13

ฉันสามารถใช้เทคนิคการเทรนพืชในการออกดอกอัตโนมัติของฉันได้หรือไม่?

Accepted Answer

ผู้ปลูกส่วนใหญ่มักจะทำการเทรนขั้นพื้นฐานเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากเมล็ดแต่ละชนิดโดยไม่ต้องไห้พืชเครียดเพราะจะทำให้การเจริญเติบโตและการส่งผลไห้การเก็บเกี่ยวได้ไม่เต็มที่ แต่ถ้าคุณมีประสบการณ์เพียงพอ คุณก็สามารถใช้เทคนิคการเทรนพืชตามที่ระบุด้านล่างนี้ได้ เพียงให้แน่ใจว่าคุณทำอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้ต้นไม้เครียด มีวิธีการเทรนพืชสองประเภท:
การเทรนดัดกิ่งที่ความเครียดต่ำ
การเทรนดัดกิ่งแบบเครียดต่ำ (ที่รู้จักในนาม LST) ประกอบด้วยการดัดก้านเบา ๆ โดยมัดหรืองอใต้ ตาข่าย เพื่อเปลี่ยนรูปร่างและความสูงของต้น วิธีนี้ช่วยให้ผู้ปลูกสามารถช่วยให้แสงเข้าถึงพื้นที่ออกดอกทั้งหมดเท่าๆ กันโดยไม่ทำให้พืชของคุณเครียดมากเกินไป จึงเป็นที่มาของชื่อ การเทรนดัดกิ่งแบบเครียดต่ำ
การเทรนดัดกิ่งที่ความเครียดสูง
การเทรนดัดกิ่งแบบสูง (หรือที่เรียกว่า HST) โดยทั่วไปแล้วจะส่งผลเช่นเดียวกับการเทรนดัดกิ่งแบบต่ำ แต่ต่างจาก LST ตรงที่ทำได้โดยการตัดกิ่งพืชของคุณ ซึ่งอาจทำไห้เกิดความเครียดสูงต่อพืชของคุณ เทคนิคนี้ยังส่งผลในการพัฒนาดอกที่ดีขึ้น แต่อาจไม่ดีที่สุดสำหรับ ดอกอัตโนมัติ หากคุณไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเทคนิคการฝึกอบรมและการปลูกการออกดอกอัตโนมัติ
ตอนนี้คุณรู้เล็กน้อยเกี่ยวกับการเทรนพืชแล้ว ต่อไปนี้เป็นเทคนิคการฝึกอบรมหลักที่แนะนำสำหรับ ดอกไม้อัตโนมัติ เพียงจำไว้ว่าหากคุณเป็นมือใหม่ คุณไม่ควรดำเนินการ HST จนกว่าคุณจะมีประสบการณ์ค่อนข้างมากเพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายการเก็บเกี่ยวของคุณ
ความแตกต่างระหว่าง LST และ HST คืออะไร?
เทคนิคการเทรนพืชทั้งสองช่วยให้คุณสร้างรูปร่างพืชของคุณในแบบที่คุณต้องการ แต่พวกเขาใช้เทคนิคที่แตกต่างกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ไม่มีความแตกต่างระหว่างพวกเขามากนักนอกจากวิธีการทำเพราะการเทรนดัดกิ่งแบบสูงโดยทั่วไปประกอบด้วยการตัดต้นไม้ของคุณในขณะที่การเทรนดัดกิ่งแบบต่ำประกอบด้วยการงอกิ่งเบา ๆ

Question 14

เมล็ดกัญชาดอกอัตโนมัติเหมาะสำหรับปลูกข้างนอกหรือไม่ ?

Accepted Answer

เหมาะ เนื่องจากกัญชาที่ออกดอกอัตโนมัติไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัฏจักรแสงที่จะกระตุ้นการออกดอก คุณสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ขอแนะนำให้คุณวางแผนล่วงหน้าเพื่อให้พืชได้รับแสงแดดมากที่สุดและไม่ต้องทนทรมานในช่วงที่มีหิมะ
เมื่อคุณซื้อ เมล็ดกัญชา ออกดอกอัตโนมัติ จาก Fast Buds คุณกำลังซื้อผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาให้ปลูกได้ทั้งข้างในและข้างนอก
การให้เมล็ดพันธุ์ที่เป็นตัวเมียของคุณมีระดับการป้องกันขั้นพื้นฐานจากศัตรูพืชและองค์ประกอบต่างๆ เช่น ฝนและความหนาวเย็นที่มากเกินไป อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงว่าผลผลิตโดยรวมจะขึ้นอยู่กับปริมาณของแสง ดังนั้นการปลูกในที่ร่มในช่วงเวลาบางเดือนของปีจึงอาจเป็นประโยชน์มากกว่า
ขอแนะนำสำหรับผู้ปลูกกลางแจ้งเป็นครั้งแรกให้เลือกใช้สายพันธุ์อินดิก้าที่โดดเด่น ซึ่งตามธรรมเนียมแล้วจะเคยชินกับสภาพที่เย็นกว่าและรุนแรงกว่า หากคุณมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับสายพันธุ์เริ่มต้นๆของการออกดอกอัตโนมัตินั้นติดต่อเราเพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม
เราได้กล่าวถึงขั้นตอนการเติบโตอย่างลึกซึ้งในคู่มือของเราเกี่ยวกับการปลูกกัญชาแบบกลางแจ้งซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะปรึกษาเมื่อคุณซื้อเมล็ดพันธุ์ออกดอกอัตโนมัติของคุณ

Question 15

เมล็ดออกดอกอัตโนมัติเหมาะสำหรับปลูกในร่มหรือไม่?

Accepted Answer

ปลูกกัญชาแบบออกดอัตโนมัติในร่ม (ภายใน)
เมื่อปลูกกัญชาในร่มแบบออกดอกโดยอัตโนมัติ คุณสามารถควบคุมองค์ประกอบต่างๆ ได้มากขึ้น และเนื่องจากการออกดอกอัตโนมัติไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัฏจักรแสง คุณจึงสามารถให้แสงได้ตั้งแต่ 18-24 ชั่วโมงต่อวัน
รอบช่วงแสง 18/6 จะให้พลังงานเพียงพอสำหรับพืชของคุณ ในขณะที่ยังประหยัดเงินค่าไฟฟ้าได้นิดหน่อย แต่ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา คุณสามารถตั้งวงจรแสง 20/4 หรือ 24/0 จากเมล็ดถึงการเก็บเกี่ยว ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตเร็วขึ้นและให้ผลผลิตดีขึ้น
เงื่อนไขที่ดีที่สุดสำหรับกัญชาแบบออกดอกอัตโนมัติของคุณ
แม้จะมีความยืดหยุ่นทนทานสูง ก็ยังคงแนะนำให้รักษาอุณหภูมิและระดับความชื้นไว้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนั้นจึงแนะนำให้รักษาสภาพการเจริญเติบโตต่อไปนี้ให้อยู่ในช่วงที่กำหนด:
ระยะต้นกล้า - 20-25°C / 50-60% RHระยะการเจริญเติบโตทางด้านลำต้น, กิ่งก้าน-สาขาและใบ - 22-28°C / 40-70%ระยะออกดอกช่วงแรก - 20-26°C / 40-50%ระยะออกดอกช่วงหลัง - 18-24°C / 30-40%
เห็นได้ชัดว่าจะง่ายกว่ามากที่จะรักษาสภาพเหล่านี้เมื่อปลูกภายใน เนื่องจากมีอุปกรณ์เฉพาะครบมือ เมื่อเติบโตกลางแจ้ง ไม่มีอะไรให้ทำได้มากไปกว่าการวางแผนล่วงหน้าและเริ่มต้นวงจรการเติบโตของคุณเมื่อทุกอย่างใกล้เคียงกับเงื่อนไขที่กล่าวไว้

Question 16

ฉันควรใช้แสงอะไร?

Accepted Answer

ดอกอัตโนมัติ ไม่ต้องการวงจรไฟแบบพิเศษ คุณสามารถปลูกมภายใต้วงจรไฟใดก็ได้ที่คุณต้องการ แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ขอแนะนำให้ใช้กำลังไฟขั้นต่ำ 75 วัตต์ หากใช้หลอดไฟหรือเทียบเท่าสำหรับ LEDs ที่มีกำลังไฟประมาณ 50 วัตต์
เมทัลฮาไลด์ ( Metal Halide)
หลอดไฟ MH ค่อนข้างดีในช่วงสองสามสัปดาห์แรก คุณจะยังมีการเก็บเกี่ยวได้ดีหากคุณใช้หลอดไฟ MH ตลอดวงจรการเจริญเติบโต แต่ขอแนะนำให้เปลี่ยนเป็นหลอด HPS เพื่อเพิ่มผลผลิตดอกไม้สูงสุด ดังนั้นหากคุณต้องเลือก ระหว่างหลอดไฟ MH หรือ HPS ตลอดทั้งวงจร เราขอแนะนำให้ใช้หลอดไฟ HPS ดีกว่า
เซรามิกเมทัลฮาไลด์ (Ceramic Metal Halide)
หลอดไฟ CMH เป็นรุ่นปรับปรุงของ MH โดยใช้พลังงานน้อยกว่าเพื่อให้การเจริญเติบโตของพืชและ การผลิต ไทร โคมเท่าเดิมหรือดี กว่า MH ปกติ แต่จะปล่อยแสงน้อยกว่า ดังนั้นสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็นจึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะบำรุงรักษา อุณหภูมิที่ดี
โซเดียมความดันสูงและปลายคู่-HPS
ขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณใช้หลอดไฟ HPS ในช่วงออกดอกเนื่องจากสเปกตรัมแสงและกำลังไฟ หลอดไฟเหล่านี้จะผลิตพืชที่แข็งแรง ดอกหนาแน่น และให้ผลผลิตที่น่าประทับใจมาก และหากใช้บัลลาสต์ จะช่วยให้คุณควบคุมความเข้มของแสงได้เสมอ
หลอดไฟแอลอีดี
ทุกวันนี้ ผู้ปลูกจำนวนมากกำลังย้ายไปยังหลอด แอลอีดี เนื่องจากการรองรับแสงแบบเต็มสเปกตรัมและประสิทธิภาพ แม้จะมีต้นทุนสูง แต่อุปกรณ์ติดตั้งเหล่านี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจมากๆ ด้วยพลังงานที่ค่อนข้างต่ำเลยทีเดียว ซึ่งทำให้คุ้มค่าหากคุณวางแผนที่จะใช้อีก อย่างน้อย 2-3 ปี
นอกจากนี้ สเปกตรัมแสงยังมีบทบาทสำคัญไช้งานปลูก ดังนั้นจึงขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณระบุสเปกตรัม "สีน้ำเงิน" เช่น MH หรือ CMH ระหว่างระยะพืช และ สเปกตรัม "สีแดง" ระหว่างระยะออกดอก เช่น HPS หรือ DE-HPS เมื่อเติบโตภายใต้ไฟ แอลอีดี ฟิกซ์เจอร์เต็มสเปกตรัมจะช่วยได้
นอกจากสเปกตรัมแล้ว ยังมีสิ่งอื่น ๆ ที่คุณควรคำนึงถึงเมื่อเลือกโคมไฟของคุณ เช่น ประสิทธิภาพและ PPFD
ประสิทธิภาพแสง
PPFD จำนวนหนึ่ง และคุณจำเป็นต้องทราบ ประสิทธิภาพแสงที่แน่นอน เพราะนี่คือสิ่งที่จะช่วยให้คุณประหยัดเงินในระยะยาว เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ผู้ผลิตจำเป็นต้องใช้ไดรเวอร์ แอลอีดี ที่ดีและไดโอด แอลอีดี แต่ละตัวที่ทำงานด้วยกระแสไฟต่ำและปล่อยความร้อนน้อยลง ส่งผลให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
โฟตอนฟลักซ์การสังเคราะห์ด้วยแสง (PPFD)
ประสิทธิภาพแสงนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับ PPFD เพราะดังที่กล่าวไว้ ประสิทธิภาพแสงคือปริมาณพลังงานที่แสงต้องการเพื่อปล่อยโฟตอนจำนวนหนึ่ง ตอนนี้ PPFD ไม่เหมือนกับ PPF PPF คือปริมาณแสงที่เกิดจากไฟในขณะที่ PPFD คือปริมาณแสงที่ส่งผ่านไปยังพืชของคุณ ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องรู้จริงๆ ว่าไฟนั้นผลิตได้มากเพียงใด แต่คุณต้องการให้เข้าถึงต้นไม้ของคุณได้มากเพียงใด
โดยพื้นฐานแล้ว ประสิทธิภาพแสงคำนวณโดยการหาร PPF ด้วยการใช้พลังงานจริง (วัตต์) และยิ่งผลลัพธ์สูง ไฟของคุณก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น

Question 17

เมล็ดพันธุ์แบบออกดอกอัตโนมัติใดที่ดีที่สุดในการปลูกกลางแจ้ง?

Accepted Answer

ดอกอัตโนมัติและผลลัพธ์ที่ฝังอยู่ ทำให้ มีหลายสายพันธุ์ที่สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม หากคุณวางแผนที่จะปลูกกลางแจ้งในสภาพอากาศที่เปียกชื้นหรือเย็นจัด การเลือกสายพันธุ์ที่ทนทานเป็นสิ่งสำคัญ
หากข้างต้นตรงกับคุณ เราขอแนะนำสายพันธุ์ต่อไปนี้:
Orange Sherbet AutoGelato AutoWedding CheeseCake AutoGorilla Glue AutoAuto OG Kushสำหรับรายการคำแนะนำที่กว้างขวางยิ่งขึ้น โปรดดูโพสต์ก่อนหน้าของเราเกี่ยวกับสายพันธุ์ออกดอกอัตโนมัติ 10 อันดับแรกที่ปลูกกลางแจ้ง

Question 18

พันธุศาสตร์การออกดอกอัตโนมัติใดให้ผลผลิตมากที่สุด?

Accepted Answer

การปลูกกัญชาป็นวิทยาศาสตร์ชนิดนึง และด้วยเหตุนี้ ผลผลิตจึงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและคุณภาพของวัฏจักรการเติบโต อย่างไรก็ตาม ทีมงานของเราเป็นผู้เชี่ยวชาญในการปลูกพืชให้สมบูรณ์แบบ และด้วยเหตุนี้ ทีมงานเราสามารถแนะนำสายพันธ์ุดอกอัตโนมัติเหล่านี้ จะให้ผลตอบแทนสูงสุด ในสภาพที่ถูกต้องสมบูรณ์แบบ
Gorilla Glue Auto - สูงถึง 450-600gr/m2Wedding Cheese Cake - สูงถึง 450-600gr/m2Orange Sherbet Auto - สูงถึง 650gr/m2Auto Northern Lights - สูงถึง 500-600gr/m2Zkittlez Auto - สูงถึง 450-600gr/m2
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุ์เหล่านี้และลักษณะของแต่ละสายพันธ์ุเมื่อเก็บเกี่ยว สามารถอ่านบทความของเราเกี่ยวกับ 5 สายพันธุ์กัญชาที่ให้ผลผลิตสูงที่สุด

Question 19

กัญชาออกดอกอัตโนมัติสายพันธุ์ใดให้ปริมาณ THC สูงสุด?

Accepted Answer

ไม่ว่าคุณจะเลือกบริโภคดอกของคุณอย่างไรเมื่อได้ผลผลิตแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าปริมาณ THC ที่มีศักยภาพ เป็น ปัจจัยที่สำคัญที่สุดต่อคุณภาพและความแรงของระดับเมา หากคุณเป็นผู้สูบที่มีประสบการณ์หรือต้องการเอาใจผู้ที่เคยชินกับการสูบกัญชาเป็นประจำ เปอเซ็นของ THC ที่สูงเป็นสิ่งที่สำคัญ
ด้วยพันธุวิศวกรรมและกระบวนการผสมพันธุ์ที่ดีที่สุด เราได้ประสบความสำเร็จในการผลิตสายพันธุ์ที่เป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่แรงที่สุดในมุมของ THC ที่มีอยู่ โดยทั่วไปแล้ว นี่คือสายพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเรา
Gorilla Cookies Auto - มากถึง 27%Strawberry Pie Auto - มากถึง 26%Gelato Auto - มากถึง 26%Orange Sherbet Auto - มากถึง 24%Gorilla Glue Auto - มากถึง 24%
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายพันธุ์เหล่านี้และลักษณะทั่วไปเมื่อเก็บเกี่ยวแล้ว สามารถอ่านบทความของเรา 5 อันดับสายพันธุ์ออกดอกอัตโนมัติที่ให้ THC สูงสุด

Question 20

เราสามารถใช้ประโยชน์อันใดจากผลประโยชน์ทางยาได้อย่างไร?

Accepted Answer

มีหลายวิธีในการใช้เมล็ดพันธุ์ที่เป็นตัวเมียที่อุดมด้วย CBD ในกรณีส่วนใหญ่ผู้ใช้ทางการแพทย์มีปัญหาด้านสุขภาพและไม่สามารถสูบสายพันธุ์ CBD ได้จริง แต่สามารถทำให้เป็นไอเพื่อหลีกเลี่ยงควันที่เป็นอันตรายหรือสามารถทำเป็นผลิตภัณฑ์ผสมหลายอย่างเช่น อาหาร น้ำมัน ครีมและเจล ที่ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยหรืออาการอื่นๆได้อย่างแน่นอน โดยไม่เกิดผลทางจิตที่ผู้ใช้ทางการแพทย์ส่วนใหญ่ไม่ต้องการ

Question 21

เมล็ดที่ออกดอกอัตโนมัติเหมาะกับใครมากที่สุด ?

Accepted Answer

การซื้อเมล็ดพันธุ์ที่เป็นตัวเมียกำลังกลายเป็นตัวเลือกหลักอย่างรวดเร็วสำหรับทั้งผู้ปลูกในเชิงพาณิชย์และผู้ปลูกแบบส่วนบุคคล
ในการปลูกเชิงทางค้า ผู้ปลูกชอบใช้เมล็ดที่ออกดอกอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ควบคู่ไปกับการพัฒนาทางพันธุศาสตร์ หมายความว่าผู้ปลูกเชิงทางค้าสามารถเลือกผลผลิตที่สูง ปริมาณสาร THC ที่สูง หรือแม้แต่ขนาดต้นที่เล็กกะทัดรัดเพื่อให้มีพืชผลสูงสุดในพื้นที่ที่มีกำหนด
สำหรับผู้ปลูกที่ปลูกเพื่อใช้ส่วนตัวก็ชอบซื้อเมล็ดพันธุ์อัตโนมัติด้วยเหตุผลที่คล้ายกัน นอกจากนี้ พันธุศาสตร์ที่เลือกยังหมายความว่ากระบวนการเติบโตนั้นให้อภัยมากขึ้นสำหรับผู้ปลูกมือใหม่ ด้วยระยะเวลาที่สั้นลงซึ่งเหมาะสำหรับการปลูกกลางแจ้ง ผู้ปลูกเพื่อการใช้ส่วนตัวสามารถได้รับประโยชน์ทั้งหมดจากอุปทานของตนเองโดยใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อย

Question 22

ดินแบบไหนดีที่สุดสำหรับเมล็ดกัญชาออกดอกอัตโนมัติ?

Accepted Answer

ผู้ปลูกมือใหม่มักให้ความสำคัญกับเรื่องดินน้อยไป เป็นความเข้าใจผิดที่พบบ่อยว่าดินอยู่มีไว้เพียงให้พืชตั้งตรง! ดินเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการปลูกพืชให้แข็งแรงด้วยดอกที่ชุ่มด้วยเรซินหนาแน่น
หากคุณกำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาง่ายๆ สำหรับการปลูกครั้งแรกของคุณ ดินอินทรีย์จะเหมาะสมที่สุด ความจริงที่ว่าดินอยู่ในสถานะเน่าเปื่อยอย่างต่อเนื่องหมายความว่าสารอาหารจะถูกปล่อยสู่พืชของคุณอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เป็นเชื้อเพลิงในการเติบโต สารเติมแต่งเช่น โกโก้ ไบโอชาร์ หรือเพอร์ไลต์ สามารถผสมลงในดินได้เช่นกัน ซึ่งแต่ละอย่างมีคุณประโยชน์เฉพาะตัว
คุณภาพของดินนั้นง่ายต่อการประเมิน ดินที่มีคุณภาพดีจะมีข้อมูลโภชนาการโดยละเอียดกำกับไว้ มีความโปร่งโล่ง ไม่มีความหนาแน่นและเป็นกอ ดิน ที่ ดีที่สุดมักจะขาดกลิ่นเช่นกัน ถ้าดินของคุณฉุน ก็มีแนวโน้มว่าเต็มไปด้วยแบคทีเรียที่ไม่ดีและไม่ควรใช้
เราได้กล่าวถึง ดินที่ดีที่สุดสำหรับเมล็ดพันธุ์กัญชาที่ออกดอกอัตโนมัติ ก่อนหน้านี้ในรายละเอียดมากขึ้น
หากคุณไม่ต้องการใช้ดินเป็นพื้นผิวที่คุณต้องการ คุณสามารถเลือกพื้นผิวใดๆ ต่อไปนี้ได้:
- พีทมอส
- เพอร์ไลต์
- เวอร์มิคูไลต์
- ใยมะพร้าว
วัสดุเหล่านี้มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรผสมตามสภาพการเจริญเติบโตของคุณ เช่น หากความชื้นสูงเกินไป คุณควรเพิ่มเพอร์ไลต์ 20-40% ลงในส่วนผสมของสารตั้งต้นที่คุณต้องการ หรือหากความชื้นสูงเกินไป ให้เพิ่ม เวอร์มิคูไลต์ หรือพีทมอส 20-30%
ในสภาพการเจริญเติบโตตามปกติ เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้ใช้ส่วนผสมของโคโค้ 70-80% กับเพอร์ไลต์ 20-30% เพื่อทดแทนดินได้ดี

Question 23

ฉันควรใช้น้ำชนิดใด?

Accepted Answer

ระดับ pH ของน้ำสามารถส่งผลต่อสารอาหารที่พืชของคุณดูดซึม ไม่สำคัญว่าน้ำจะมาจากไหนตราบใดที่ pH อยู่ในช่วงที่ได้ ค่า pH ที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับสารตั้งต้นที่คุณปลูกและปุ๋ยที่คุณใช้ แต่โดยทั่วไป เราแนะนำให้ปรับ pH เป็น 6.0-7.0 เมื่อปลูกในดิน และ 5.5-6.5 เมื่อปลูกในน้ำหรือใยมะพร้าว

Question 24

ฉันควรรดน้ำสำหรับเมล็ดที่ออกดอกอัตโนมัติบ่อยแค่ไหน?

Accepted Answer

ไม่มีทางรู้แน่ชัดว่าคุณต้องการน้ำมากแค่ไหน เพราะตารางการรดน้ำจะขึ้นอยู่กับสภาพการปลูกของคุณโดยเฉพาะ สิ่งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากระดับความชื้น อุณหภูมิ ความเข้มของแสง พื้นผิว ขนาดกระถาง และทุกสิ่งทุกอย่างจะส่งผลต่อการระเหยของน้ำและกำหนดระยะเวลาที่พื้นผิวจะแห้ง ตามแนวทาง คุณควรรดน้ำต้นกล้าด้วยน้ำ 100 มล. และค่อยๆ เพิ่มปริมาณน้ำเมื่อพืชของคุณเติบโต วัตถุประสงค์หลักคือการรดน้ำต้นไม้ของคุณทุกๆ 2-3 วันเมื่อพื้นผิวแห้งประมาณ 70%

Question 25

ฉันควรให้สารอาหารอะไรแก่การออกดอกอัตโนมัติ ?

Accepted Answer

คุณสามารถใช้ทั้งสารอาหารอินทรีย์และสารสังเคราะห์เมื่อปลูกดอกไม้อัตโนมัติ แต่การออกดอกอัตโนมัติต้องการสารอาหารน้อยกว่าเมล็ดพันธุ์ตัวเมียประเภทอื่น ๆ และปุ๋ยส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้ที่ไม่ใช่ ผู้ปลูกดอกอัตโนมัติ ไม่สำคัญว่าคุณใช้ปุ๋ยประเภทใดตราบเท่าที่คุณเริ่ม ปริมาณสารอาหารที่ต่ำกว่า ตอนนี้ บางสายพันธุ์อาจต้องใช้มากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ดังนั้น ขอแนะนำให้คุณเริ่มด้วย ⅓ หรือ ½ ของขนาดที่แนะนำ และค่อยๆ เพิ่มขึ้นหากคุณรู้สึกว่าพืชของคุณต้องการ ตามแนวทาง คุณสามารถทำตามกำหนดการทั่วไปนี้:
สัปดาห์ที่ 1 ต้นกล้า - น้ำเปล่าสัปดาห์ที่ 2 เติบโตแบบผัก ⅛ veg. nutesสัปดาห์ที่ 3 เติบโตแบบผัก ¼ veg. nutesสัปดาห์ที่ 4 ก่อนออกดอก ½ veg. nutes + ⅛ bloomสัปดาห์ที่ 5 กำลังก่อตัวดอก - ¼ bloom + ⅛ veg. nutesสัปดาห์ที่ 6 การออกดอก ½ bloom nutesสัปดาห์ที่ 7 การออกดอก ½ bloom nutesสัปดาห์ที่ 8 การออกดอก ½ bloom nutesสัปดาห์ที่ 9 สุก ½ bloom nutesสัปดาห์ที่ 10 ฟลัช น้ำเปล่า

Question 26

ฉันสามารถปลูกดอกแบบอัตโนมัติแบบไฮโดรโปนิกส์ได้หรือไม่?

Accepted Answer

ใช่! คุณสามารถปลูกดอกไม้อัตโนมัติแบบไฮโดรโปนิกส์ได้อย่างแน่นอน และ ให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม เพียงแต่ต้องมีสภาพการเจริญเติบโตที่เหมาะสม และที่สำคัญที่สุดคือต้องตรวจสอบค่า pH อุณหภูมิและ PPM ของสารละลายธาตุอาหาร
สำหรับผู้ที่ไม่ทราบ ค่า pH ของสารละลายธาตุอาหารคือสิ่งที่จะช่วยให้พืชของคุณดูดซับสารอาหารบางอย่างได้ ดังนั้นแม้ว่าคุณจะให้อาหารแก่พืชอย่างเหมาะสม ค่า pH ก็สามารถขัดขวางสารอาหารและพืชของคุณก็ไม่สามารถดูดซับ นี่คือเหตุผลที่คุณควรรักษา pH ไว้ที่ 5.5-5.8
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ PPM หรือ EC เพราะเมื่อวัด คุณจะรู้ว่าน้ำของคุณมีสารอาหารมากแค่ไหน และนี่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปลูกพืชไร้ดิน ตามแนวทาง อุณหภูมิของสารละลายธาตุอาหารควรอยู่ที่ประมาณ 20°C และค่า PPM ควร เป็นดังต่อไปนี้ (โดยประมาณ):
- ต้นกล้า: 100-400
- ระยะต้นพืช: 400-800
- ระยะพืชปลาย: 800-1200
- ก่อนออกดอก/ ออกดอกตอนต้น: 1,000-1400
- ออกดอกตอนกลาง: 1200-1600
- ออกดอกตอนปลาย: 1,000-500-0
มีการตั้งค่าไฮโดรโปนิกส์หลายแบบและแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียของตัวเอง ในบรรดาดอกไม้อัตโนมัติที่พบบ่อยที่สุด คือ :
Deep Water Culture (DWC)
การเพาะเลี้ยงในน้ำ DWC คือการปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ที่ประกอบด้วยการปลูกพืชในกระถางหรือตาข่ายพิเศษ (มีหรือไม่มีเพอร์ไลต์ โคโค่ หรือก้อนกรวดดินเหนียว) โดยมีรากห้อยลงมา โดย ให้ส่วนหนึ่ง แช่อยู่ในสารละลายธาตุอาหาร และบางส่วนแขวนอยู่ กลางอากาศ ด้วยวิธีนี้พวกมันสามารถให้สารอาหารในขณะที่มีออกซิเจนจำนวนมาก
แอร์โรโปนิกส์
แอร์โรโปนิกส์คล้ายกับ DWC มาก แต่แทนที่จะเป็นรากที่จมอยู่ใต้น้ำบางส่วน ระบบรากทั้งหมดจะแขวนอยู่กลางอากาศ ในขณะที่สปริงเกลอร์อัตโนมัติจะหล่อเลี้ยงพวกมันทุกๆ 3-5 นาที ด้วยวิธีนี้พวกมันจะได้รับสารอาหารและออกซิเจน เช่นเดียวกับใน DWC โปรดทราบว่าเมื่อเติบโต ตามหลักอากาศพลศาสตร์ คุณควรใช้อ่างเก็บน้ำที่กันน้ำและกันแสงเพื่อหลีกเลี่ยงเชื้อราและช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ชื้นเพื่อให้รากเจริญเติบโต
ระบบน้ำหยด
การให้นำแบบหยดประกอบด้วยการใช้ท่อบาง ๆ วางบนดินโดยมีที่ดริปที่ปลายซึ่งจะป้อนสารละลายธาตุอาหารทีละหยดตลอดทั้งวัน คุณยังสามารถตั้งโปรแกรมให้ทำงานทุกๆ 15 นาทีหรือตามที่คุณต้องการ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าต้นไม้ของคุณไม่ได้รับน้ำมากเกินไป นี่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการปลูกดอกไม้อัตโนมัติ เพราะคุณหลีกเลี่ยงการให้อาหารมากเกินไปเนื่องจากพืชของคุณได้รับสารอาหารจำนวนเล็กน้อยตลอดทั้งวันแทนที่จะได้รับมากเพียงหนึ่งครั้งทุกๆ 2-3 วัน

Question 27

THC กับ CBD ต่างกันอย่างไร?

Accepted Answer

ทั้ง THC และ CBD เป็นแคนนาบินอยด์ ที่ผลิตโดยเมล็ดที่มีลักษณะเป็นตัวเมีย ไทรโครม และทั้งคู่ส่งผลต่อระบบ เอ็นโดแคนนาบินอยด์ นักวิจัยยังคงพยายามทำความเข้าใจว่ามันทำงานอย่างไร แต่เรารู้อยู่แล้วว่า THC ถูกดูดซับโดยตัวรับ CB1 ในระบบประสาทส่วนกลางของเรา ทำให้เกิดผลทางจิตประสาทในขณะที่ CBD ถูกดูดซับโดยตัวรับ CB2 ในระบบประสาทส่วนปลายของเรา ทำให้เกิดผลกระทบต่อร่างกาย นี่คือเหตุผลที่การบริโภคกัญชาสามารถส่งผลต่อกระบวนการต่างๆ เช่น ความจำ ความอยากอาหาร การนอนหลับ และอารมณ์
มีแคนนาบินอยด์อื่น ๆ หรือไม่?
มีแน่นอน พืชกัญชาไม่เพียงผลิต THC และ CBD เท่านั้น นักวิจัยคิดว่าพืชกัญชาอาจผลิตแคนนาบินอยด์ ได้มากกว่า 100 ชนิด แต่ส่วนใหญ่ผลิตในระดับที่ต่ำมาก อย่างน้อยก็ในสายพันธุ์เชิงพาณิชย์ ซึ่งทำให้นักวิจัยศึกษาได้ยาก เห็นได้ชัดว่าแคนนาบินอยด์ ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ THC และ CBD แต่พืชกัญชาผลิต แคนนาบินอยด์อื่น ๆ เช่น:
- CBG
- CBC
- CBG และ
- THCV และอื่น ๆ
แต่เทอร์ปีนที่แตกต่างกันเหล่านี้ไม่ได้ผลิตขึ้นโดยตรง พืชกัญชาจะผลิตกรดที่ต้องกระตุ้น ( ดีคาร์บอกซิ เลต ) โดยใช้ความร้อน ซึ่งหมายความว่าพืชกัญชาไม่ผลิต THC และ CBD จริง ๆ แล้วพวกมันผลิต THCA และ CBDA ซึ่งจะเปลี่ยนเป็น เข้าสู่ THC และ CBD โดยใช้ความร้อน แม้จะผลิต แคนนาบินอยด์ที่แตกต่างกันเหล่านี้ในลักษณะเดียวกับที่พืชผลิต THC ตัวอย่างเช่น แคนนาบินอยด์ เดียวที่เรารู้ว่าก่อให้เกิดผลทางจิตประสาทอย่างแน่นอนคือ THC สารแคนนาบินอยด์อื่นๆ อาจมีศักยภาพที่จะทำให้คุณรู้สึกเมาได้ แต่ขึ้นอยู่กับปริมาณที่คุณไช้ และเนื่องจากไม่มีอยู่ในปริมาณที่สูง จึงเป็นเรื่องยากที่จะทราบ
แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ออกฤทธิ์ทางจิตด้วยตัวเอง แต่นักวิจัยสงสัยว่าอาจมีอิทธิพลต่อวิธีที่ THC และ CBD ส่งผลต่อคุณ ซึ่งเรียกว่าเอฟเฟกต์สิ่งแวดล้อม
ผลกระทบสิ่งแวดล้อมคืออะไร?
เมื่อคุณสูบหรือทำให้กัญชากลายเป็นไอ คุณไม่เพียงแต่บริโภค THC และ CBD เท่านั้น คุณยังบริโภคสารประกอบทางเคมีที่แตกต่างกันหลายร้อยชนิด เช่น สารแคนนาบินอยด์ เทอร์ปีน และฟลาโวนอยด์ ชุดค่าผสมที่แตกต่างกันเหล่านี้ให้เกิดผลเฉพาะ ซึ่งหมายความว่าสายพันธุ์หนึ่งอาจมีสารประกอบเดียวกันกับอีกสายพันธุ์หนึ่ง แต่เนื่องจากความเข้มข้นที่ต่างกัน ผลที่ได้ อาจแตกต่างกันเล็กน้อย และแน่นอนว่า หากสารประกอบทางเคมีที่ผลิตออกมานั้นแตกต่างกัน (เช่น เมื่อปลูกสองสายพันธุ์ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง) ผลก็จะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
เทอร์ปีน คืออะไร?
เทอร์ปีน เป็นสารประกอบอะโรมาติกที่พบในพืชและสมุนไพรส่วนใหญ่ รวมทั้งกัญชา เทอร์ปีนเหล่านี้มักใช้เพื่อสร้างรสชาติและกลิ่นในผลิตภัณฑ์ประจำวัน เช่น อาหาร น้ำหอม และครีม ตัวอย่างเช่น ในพืชกัญชา เทอร์ปีน ช่วยดึงดูดแมลงผสมเกสรในขณะที่ป้องกันผู้ล่าในขณะที่มีบทบาทสำคัญในสุขภาพของพืชเพราะช่วยให้ห่างไกลจากเชื้อโรค
ฟลาโวนอยด์คืออะไร?
ฟลาโวนอยด์เป็นกลุ่มของสารประกอบทางเคมีที่มีผลต่อการสร้างเม็ดสีของพืชกัญชาเป็นหลัก แต่อาจส่งผลต่อกลิ่นและรสชาติของดอกได้เช่นกัน ฟลาโวนอยด์พบได้ในพืชหลายชนิดและในผักและผลไม้ส่วนใหญ่ สารประกอบทางเคมีเหล่านี้มีบทบาทเล็กน้อยในการปกป้องพืชจากรังสี UV เชื้อโรค และแมลง ผู้บริโภคกัญชาส่วนใหญ่คิดว่ากลิ่นและรสชาติของพืชกัญชาเกิดจากเทอร์ปีนเท่านั้น แต่ฟลาโวนอยด์มีบทบาทสำคัญในคุณสมบัติต่างๆ ที่แยกแยะสายพันธุ์ต่างๆ สิ่งที่คล้ายกับเอฟเฟกต์สิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นกับเทอร์ปีนและฟลาโวนอยด์เนื่องจากคุณสมบัติที่ทั้งเทอร์ปีนและฟลาโวนอยด์มีร่วมกัน สารฟลาโวนอยด์ยังส่งผลต่อการสร้างเม็ดสีของพืชกัญชา ทำให้เกิดสีม่วง ชมพู แดง และสีอื่นๆ ที่คุณอาจเคยพบเห็นในต้นกัญชา

Question 28

วิธีการตัดแต่งทริมการออกดอกอัตโนมัติ ? (Trimming)

Accepted Answer

การตัดแต่งทริมดอกประกอบด้วยการเอาใบส่วนเกินออกและบางครั้งก็ขน เพื่อทำให้ดอกของคุณดูสวยงามและน่าดึงดูดยิ่งขึ้น วัตถุประสงค์คือเพื่อขจัดทุกสิ่งที่ไม่มีไทรโครมออกและสร้างพื้นผิวที่สม่ำเสมอรอบดอก สิ่งนี้จะไม่เพียงส่งผลให้ดอกไม้ดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยกระบวนการทำให้ดอกของคุณแห้ง โดยทั่วไปการเล็มมีสองประเภทนั่นคือ การเล็มแบบเปียกและการเล็มแบบแห้ง
การตัดแต่งทริมแบบเปียก
การตัดแต่งกัญชาของคุณก่อนที่จะแห้งเรียกว่าการตัดแต่งแบบเปียก เนื่องจากใบยังสด (หรือ "เปียก") ในระหว่างการเล็ม วิธีนี้เป็นวิธีที่ผู้ปลูกส่วนใหญ่นิยมใช้ เพราะตัดแต่งใบสดได้ง่ายกว่าใบแห้งและเปราะ แต่จะแนะนำมากกว่าหากคุณต้องเจอกับความชื้นสูงในห้องที่ไว้ตากแห้ง
การตัดแต่งทริมแบบแห้ง
การตัดแต่งแบบแห้งประกอบด้วยการเล็มหลังการตากเมื่อใบแห้งสนิท โดยปกติจะทำโดยเกษตรกรผู้ปลูกเชิงการค้าหรือผู้ที่มีห้องอบแห้งที่เหมาะสม เนื่องจากความชื้นส่วนเกินในใบอาจเพิ่มระดับความชื้นในห้องอบแห้ง ดังนั้นจึงแนะนำเฉพาะเมื่อความชื้นและอุณหภูมิในห้องอบแห้งของคุณตรงกับที่ควร

วิธีทำให้ดอกอัตโนมัติแห้ง ?
กระบวนการทำให้แห้งประกอบด้วยการระเหยความชื้นส่วนเกินในดอก การเตรียมการสำหรับการบ่มและการบริโภค ตอนนี้ การตากแห้งไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องเก็บเกี่ยวพืชแล้วห้อยกลับหัวหรือวางบนราวตากผ้า เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณควรเก็บเงื่อนไขต่อไปนี้ไว้ใน ห้องอบแห้ง
อุณหภูมิ 21°Cความชื้น 50-60%

Question 29

วิธีการรักษาเมล็ดแบบการออกดอกอัตโนมัติ ?

Accepted Answer

หลังจากการเก็บเกี่ยวและทำให้แห้ง การบ่มเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่คุณจะสามารถบริโภคผลผลิตของคุณได้ กระบวนการบ่มประกอบด้วยการใส่ดอกในโหลแก้วสุญญากาศเพื่อให้ ไทรโครม เติบโตอย่างเหมาะสมและส่งผลให้ดอกไม้ได้มีรสชาติและกลิ่นที่ดีขึ้น เงื่อนไขสำหรับกระบวนการบ่มควรเป็นดังนี้:
อุณหภูมิ 21°Cความชื้น 60-65%

Question 30

ฉันจะทำอะไรได้อีกกับการเก็บเกี่ยวของฉัน?

Accepted Answer

นอกจากการการสูบแล้ว คุณยังสามารถบริโภคพืชผลของคุณได้หลายวิธี เพราะสิ่งที่ให้ผลทางการแพทย์หรือการพักผ่อนหย่อนใจนั้นแท้จริงแล้วคือ ไทรโครม ไม่ใช่ตัวพืชเอง ดังนั้น หากคุณต้องการทดลองด้วยวิธีต่างๆ ในการบริโภคกัญชา (หรือเพียงแค่ไม่สามารถสูบได้เนื่องจากปัญหาสุขภาพ) คุณก็สามารถใช้กัญชาในครีม น้ำมัน สิ่งที่บริโภคได้ และสารสกัดต่างๆ แต่ก่อนอื่น คุณต้อง ดีคาร์บอกซิเลท ก่อน

Question 31

ดีคาร์บอกซิเลชันคืออะไร?

Accepted Answer

ดีคาร์บอกซิเลชันเป็นปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นเมื่อคุณใช้ความร้อนกับสารแคนนาบินอยด์บางชนิด ซึ่งจะขจัดอะตอมของคาร์บอนออกจากสายโซ่คาร์บอน จึง "กระตุ้น" สารแคนนาบินอยด์ โดยพื้นฐานแล้ว THCA เปลี่ยนเป็น THC และขณะนี้สามารถให้ผลทางจิตประสาทที่ทุกคนรู้จัก
จะดีคาร์บ๊อกซีเลทกัญชาได้อย่างไร?
การดีคาร์บอกซิเลต กัญชาของคุณทำได้ง่ายมาก: นำดอกกัญชาประมาณ 10 กรัม แยกเป็นชิ้นเล็กๆ ด้วยมือ เกลี่ยให้ทั่วบนแผ่นอบ แล้ว อุ่นในเตาอบที่ 100 °C เป็นเวลา 25 - 30 นาที หลังจากผ่านไป 25 - 30 นาที ปล่อยให้เย็นลงที่อุณหภูมิห้อง และคุณสามารถสร้างน้ำมันหรือเนยที่ผสมกัญชาได้เอง!

Question 32

วิธีทำผลิตภัณฑ์ผสมกัญชา?

Accepted Answer

การทำ น้ำมัน เนย หรือของกินที่ผสมกัญชาของคุณเองนั้นง่ายมาก ก่อนอื่น คุณต้องตัดสินใจว่าคุณต้องการทำอะไร คุณสามารถใช้น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว เนยใส และเนย เป็นต้น สิ่งที่คุณต้องทำคือเติมน้ำ 1 ถ้วยกับเนยหรือน้ำมัน 1 ถ้วยลงในหม้อ เคี่ยวไฟต่ำแล้วปล่อยให้เนยละลาย เมื่อเนยละลายแล้ว ให้เติม กัญชา ดีคาร์บ๊อกซีเลท และรักษาความร้อนต่ำ (ระหว่าง 75-85 °C) และปล่อยให้เดือดเป็นเวลา 2 - 3 ชั่วโมงโดยไม่ปล่อยให้เดือด จำไว้ว่าน้ำมันหรือเนยควรเปลี่ยนเป็นสีทองสวย ถ้ามันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว ก็ถึงเวลาสิ้นสุดกระบวนการ หลังจากทำเนยหรือน้ำมันที่ผสมกัญชาเสร็จแล้ว คุณก็สามารถนำไปใช้ได้ตามที่คุณต้องการ!